สิทธิบัตรการประดิษฐ์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดจากผลงานสร้างสรรค์จากการประดิษฐ์ที่มีลักษณะของการแก้ปัญหาทางเทคนิคที่ไม่สามารถคิดขึ้นโดยง่าย
การประดิษฐ์ (Invention) หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับ ลักษณะองค์ประกอบ โครงสร้างหรือกลไกของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิตการรักษา หรือปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น หรือทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ขึ้นใหม่ ที่แตกต่างไปจากเดิม
การประดิษฐ์จะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ก็ต่อเมื่อนำการประดิษฐ์นั้นมายื่นขอรับความคุ้มครอง และได้รับการจดทะเบียนจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เท่านั้น
3.1 เป็นการคุ้มครองสิทธิอันชอบธรรมของผู้ประดิษฐ์ เนื่องจากผู้ประดิษฐ์ได้ใช้สติปัญญาและความพยายามของตนรวมทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่จะมีประโยชน์แก่มนุษย์ ดังนั้น หากการคิดค้นดังกล่าวสามารถทำให้เกิดผลตอบแทนในทางเศรษฐกิจหรือในเชิงพาณิชย์ได้ ก็ควรถือเป็นสิทธิของผู้ประดิษฐ์คิดค้นที่รัฐควรให้ความคุ้มครอง
3.2 เป็นการให้รางวัลตอบแทนแก่ผู้ประดิษฐ์ เนื่องจากผลงานที่คิดค้นขึ้นทำให้ชีวิตมีความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้รับความสะดวกสบายและมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สังคมก็ควรให้รางวัลตอบแทนแก่ผู้สร้างคุณประโยชน์ดังกล่าว โดยการให้ความคุ้มครองป้องกันมิให้ผู้อื่นแสวงหาประโยชน์จากผลงานดังกล่าวนั้นโดยมิชอบ
3.3 เพื่อจูงใจให้มีการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ ขึ้น เนื่องจากการประดิษฐ์คิดค้นจะต้องมีการลงทุนทั้งในด้านค่าใช้จ่าย เวลา และสติปัญญาอันพิเศษของมนุษย์ แต่เมื่อมีการเปิดเผยสาระสำคัญในการประดิษฐ์คิดค้น หรือมีการผลิตเป็นสินค้าเพื่อออกจำหน่ายแล้ว บุคคลอื่นสามารถลอกเลียนแบบได้โดยง่าย ดังนั้น จึงจำเป็นที่รัฐต้องให้ความคุ้มครอง อันจะเป็นการกระตุ้นให้นักประดิษฐ์คิดค้นมีกำลังใจ และมีความมั่นใจในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
3.4 เพื่อกระตุ้นให้มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการประดิษฐ์คิดค้นใหม่ๆ ในการให้ความคุ้มครองนี้ ได้กำหนดให้มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการประดิษฐ์คิดค้นนั้นๆ จนทำให้สามารถนำไปศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพัฒนาต่อไป เพื่อส่งผลให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีที่สูงขึ้น
3.5 เพื่อจูงใจให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการลงทุนจากต่างประเทศ การจัดระบบให้มีการคุ้มครองสิทธิบัตรย่อมทำให้เจ้าของเทคโนโลยีจากต่างประเทศมีความมั่นใจในการลงทุนหรือถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ผู้ร่วมทุนในประเทศ
4.1 เป็นการประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ คือ การประดิษฐ์ที่แตกต่างไปจากเดิม ยังไม่เคยมีใช้หรือแพร่หลายมาก่อนในประเทศ หรือไม่เคยเปิดเผยสาระสำคัญ หรือรายละเอียดในเอกสาร สิ่งพิมพ์ หรือการนำออกแสดง หรือเปิดเผยต่อสาธารณชนมาก่อนทั้งในและนอกประเทศก่อนวันยื่นคำขอ และยังไม่เคยได้รับสิทธิบัตรมาก่อน
4.2 เป็นการประดิษฐ์ที่มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น คือ มีลักษณะที่เป็นการแก้ไขปัญหาทางเทคนิค หรือไม่เป็นการประดิษฐ์ที่ทำได้โดยง่ายต่อผู้ที่มีความชำนาญในระดับสามัญสำหรับงานประเภทนั้น
4.3 เป็นการประดิษฐ์ที่สามารถนำไปประยุกต์ในทางอุตสาหกรรมได้
5.1 จุลชีพและส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งของจุลชีพที่มีอยู่ตามธรรมชาติ สัตว์ พืช หรือสารสกัดจากสัตว์หรือพืช
5.2 กฎเกณฑ์และทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
5.3 ระเบียบข้อมูลสำหรับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
5.4 วิธีการวินิจฉัย บำบัด หรือรักษาโรคมนุษย์หรือสัตว์
5.5 การประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี อนามัยหรือสวัสดิภาพของประชาชน
เมื่อได้ทำการประดิษฐ์คิดค้นหรือออกแบบผลิตภัณฑ์ขึ้นมา และประสงค์จะขอรับความคุ้มครองอาจจะมีปัญหาว่าควรจะขอรับความคุ้มครองในรูปแบบใดจึงเหมาะสม ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะขอรับความคุ้มครองควรที่จะคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. สิ่งที่คิดค้นขึ้นมานั้นเป็นการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ในกรณีนี้สามารถที่จะพิจารณาได้ง่ายๆ ว่า ถ้าสิ่งนั้นเป็นการคิดค้นที่ก่อให้เกิดลักษณะใหม่ที่มีหน้าที่การทำงาน ประโยชน์ใช้สอยก็สามารถสรุปได้ทันที่ว่าเป็นการประดิษฐ์ แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นการคิดค้นเกี่ยวกับรูปร่าง ลักษณะ หรือลวดลายที่ปรากฏอยู่บนตัวผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดความสวยงาม สามารถสรุปได้ว่าเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ซึ่งควรที่จะยื่นขอรับความคุ้มครองสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์
ในกรณีที่เป็นการประดิษฐ์ ก็ต้องสินใจอีกว่าควรที่จะขอรับความคุ้มครอง สิทธิบัตรการประดิษฐ์หรืออนุสิทธิบัตร ในกรณีนี้ ผู้ขอความคุ้มครองควรที่จะคำนึงถึงต่อไปว่า สิงประดิษฐ์นั้นมีเทคนิคที่ซับซ้อนหรือไม่ หากมีเทคนิคที่ซับซ้อนก็ควรที่จะขอรับความคุ้มครองสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ทั้งนี้เนื่องจากเงื่อนไขที่ว่า จะต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น และสามารถประยุกต์ใช้ในทางอุตสาหกรรมได้นั่นคือจะต้องดูว่าลักษณะของสิ่งประดิษฐ์ควรที่จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขใด
2. องค์ประกอบอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า อายุการคุ้มครอง ขั้นตอนการจดทะเบียนที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เป็นต้น ซึ่งผู้ขออาจจะนำมาประกอบการพิจารณาเลือกว่าจะยื่นคำขอแบบใด
ลำดับ | หลักฐาน |
---|---|
1 |
แบบฟอร์มคำขอรับสิทธิบัตร โดยศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญาและบ่มเพาะวิสาหกิจ ได้เน้นสีเหลือง ในส่วนที่ต้องใส่รายละเอียด ได้แก่
|
2 | คำอธิบายการเขียนรายละเอียดการประดิษฐ์ ซึ่งเป็นการอธิบายแต่ละหัวข้อว่ามีรายละเอียดและหลักการเขียนอย่างไร |
3 | รูปแบบรายละเอียดการประดิษฐ์ ซึ่งเป็นแบบฟอร์มที่มีการเขียนเลขหน้า และเลขบรรทัด ตามแบบฟอร์มมาตรฐาน |
4 |
หนังสือสัญญาโอนสิทธิขอรับสิทธิบัตร โดยศูนย์ฯ ได้เน้นสีเหลือง ในส่วนที่ต้องใส่รายละเอียด ได้แก่
|
ลำดับ | รายละเอียด |
---|---|
1 | ผู้ประดิษฐ์ตรวจทาน/แก้ไข แบบฟอร์มคำขอรับสิทธิบัตร รายละเอียดการประดิษฐ์ และหนังสือสัญญาโอนสิทธิ์ |
2 | ส่งไฟล์กลับมายังอีเมลศูนย์ฯ tu.tuipi@gmail.com เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ ทำความเข้าใจ และแก้ไขส่งกลับไปให้ผู้ประดิษฐ์ อ่านเนื้อหาอีกครั้งว่ายังมีเนื้อหาที่ตรงกับความประสงค์ของผู้ประดิษฐ์หรือไม่ |
3 | เมื่อเห็นว่าถูกต้องสมบูรณ์แล้ว ให้ผู้ประดิษฐ์ซึ่งเป็นเจ้าของผลงาน ส่งไฟล์ที่แก้ไขกลับมายังอีเมลศูนย์ฯ อีกครั้ง |
4 | เมื่อหลักฐานครบ รายละเอียดการประดิษฐ์ถูกต้อง เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ จะนำหลักฐานทั้งหมดไปยื่นคำขอรับสิทธิบัตรที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ จะนำหลักฐานการยื่นคำขอที่ได้และเลขที่คำขอรับสิทธิบัตร ส่งคืนเจ้าของผลงานทั้งในรูปของ เอกสาร (Hard copy) และไฟล์ เพื่อเก็บเป็นหลักฐานร่วมกันกับศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญาฯ ต่อไป |
ลำดับ | ความเป็นเจ้าของ | รายละเอียด |
---|---|---|
1 | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | 1. ตามระเบียบของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุไว้ว่า “ผลงานสิทธิบัตร อนุสิทธิบัตรที่ได้ถือเป็นสิทธิของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังนั้นจึงต้องมีการเซ็นยินยอมโอนสิทธิจากผู้ประดิษฐ์ทุกท่าน ซึ่งมีฐานะเป็น “ผู้โอนสิทธิ” ให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โดย “ผู้รับโอนสิทธิ” คือ อธิการบดี และมีระเบียบการแบ่งปันผลประโยชน์ตามเอกสารแนบ (ข้อดีของการโอนสิทธิให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือ จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมจากกรทรัพย์สินทางปัญญาในทุกขั้นตอน) |
2 | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมกับสถาบันอื่นๆ | 2. หากมีการทำวิจัยร่วมกับบุคลากรจากสถาบันอื่น ผลงานสิทธิบัตร อนุสิทธิบัตรนั้นต้อง ถือเป็นสิทธิบัตรร่วมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมกับสถาบันนั้นๆ และต้องมีการเซ็นยินยอมโอนสิทธิจากผู้ประดิษฐ์ทุกท่าน ให้ทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสถาบันดังกล่าว และมีการแบ่งปันผลประโยชน์ตามข้อตกลงร่วมกันของ 2 สถาบัน |
01. แบบ สป/สผ/อสป/001-ก คำขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร
02. แบบ สป/สผ/อสป/001-ก(พ) คำรับรองเกี่ยวกับสิทธิขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร
03. Form PI/PD/PP/001-A (Add) Statement of Applicant's Right to Apply For a Pattent/Petty Patent
04. แบบ สป/อสป/004-ก คำขอเปลี่ยนแปลงประเภทของสิทธิ์
05. แบบ สป/สผ/อสป/003-ก คำขอแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร
06. แบบ สป/สผ/อสป/005-ก คำขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์
07. แบบคำร้องขอให้หน่วยงานอื่นตรวจสอบการประดิษฐ์
08. แบบคำร้องขอคืนเงินค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบการประดิษฐ์
11. แบบ สป/สผ/อสป/009-ก คำอุทธรณ์
12. แบบ สป/สผ/005-ก(พ) คำขอนำพยานหลักฐานมาแสดงหรือแถลงเพิ่มเติม
13. แบบ สป/สผ/205-ก คำขอจดทะเบียนการอนุญาตให้ใช้สิทธิตามสิทธิบัตร
14. แบบ สป/สผ/อสป/206-ค คำขอจดทะเบียนการโอนและการรับโอนสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรโดยทางมรดก
15. แบบ สป/สผ/อสป/010-ก คำขอชำระค่าธรรมเนียมรายปี/คราวเดียว/ต่ออายุ
16. แบบ สป/สผ/อสป/006-ก คำขอตรวจค้นคำขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร และคัดสำเนา
17. แบบ สป/สผ/อสป/002-ก คำขอถือสิทธิให้ถือวันยื่นคำขอในต่างประเทศเป็นครั้งแรกเป็นวันยื่นคำขอในไทย
18. แบบ สป/สผ/อสป/011-ก คำขออื่นๆ
สิทธิบัตร สาขาวิศวกรรม/ไฟฟ้า/ฟิสิกส์
ระบบสืบค้นข้อมูลสิทธิบัตรออนไลน์ (DIP)